วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

[NC] - Gardenia - XII - eagerness -


“อย่า อย่าพึ่งสิ” ผมร้องห้ามพี่ที่เริ่มซุกไซร้
“ทำไม” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่พี่ก็ไม่ยอมหยุด
“คุย คุยให้ อื้ม รู้เรื่องก่อน”
“ชู่ว เงียบได้แล้ว”




พี่เอานิ้วชี้มาแตะปากผมเบาๆ แล้วค่อยๆสอดมือเข้ามาภายใต้เสื้อยืดตัวบางของผมนานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้สัมผัสกันอย่างนี้ หนึ่งวัน หนึ่งอาทิตย์หรือหนึ่งเดือนกันแน่ สัมผัสที่ทำให้ผมรู้สึกดีแบบนี้ถึงจิตใต้สำนึกมันจะบอกให้ผมหลับตารับสัมผัสนั้นซะแต่ผมก็อยากจะเห็นทุกการกระทำของพี่อยู่ดี มือหนาที่ลูบไล้ต้นขาผมอย่างแผ่วเบา มันค่อนข้างจะแตกต่างจากเมื่อก่อนอยู่นิดหน่อย ริมฝีปากที่ลากผ่านลงมาตามซอกคอก่อนจะดูดดุนเบาๆจนมันปรากฏรอยแดงๆเรียวนิ้วทั้งห้าที่ค่อยๆสอดเข้ามาที่มือของผมก่อนที่ผมจะกำมันไว้หลวมๆ พี่เลื่อนกายขึ้นมาจ้องหน้าพลางไล่มือไปตามโครงหน้าของผมแล้วกดจูบกับแก้ม



ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของเราทั้งคู่ถูกถอดไปตั้งแต่ตอนไหนกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่แทรกกายเข้ามาแล้ว ผมเหมือนโดนมอมเมาไปกับกลิ่นและสัมผัสที่แสนคุ้นเคย ผมได้แต่เผยอปากหอบครางออกมาพี่ยังคงชอบรุนแรงเหมือนเดิมแต่ทำไมครั้งนี้ผมถึงกับชอบมันนะ แรงกระแทกกระทั้นมันทำให้เจ็บและจุกอยู่ไม่ใช่น้อยแต่มันก็รู้สึกดีมากๆ ร่างกายร้อนผะผ่าวที่แนบชิดกันอดเขินไม่ได้เวลาได้ยินเสียงพี่เรียกชื่อผมดังเบาๆอยู่ข้างหูแทบจะไม่อยากให้หยุดแล้วล่ะสิ



“รู้สึกดีหรือเปล่า แบบนี้ชอบไหม” พี่ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่เสมอ
“อ๊า ดีมาก มากเลยล่ะ”
“ทำหน้าน่ารักจัง.... อย่าเม้มปากสิ” น่ารักงั้นหรอ
“การ์ดิเนีย ทำไม พี่ถึงชอบ อื้ม มัน”




            พี่หันไปมองกระถางการ์ดิเนียเล็กๆที่มีดอกมันบานสะพรั่งอยู่แล้วยังส่งกลิ่นหอมฉุนอบอวลไปทั่วห้องก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ผมมองการกระทำของพี่แล้วเบ้หน้าใส่เจ้าตัวเลยกดจูบที่ปากผมเบาๆแล้วส่งยิ้มบางๆมาให้




“อยากรู้หรอ”



            ผมพยักหน้าหน้าหงึกหงักจนผมปลิวกระจาย พี่ค่อยๆผ่อนแรงลงแล้วหยุดขยับในที่สุดผมขมวดคิ้วให้อย่างไม่พอใจก่อนจะโดนจับพลิกขึ้นให้ไปอยู่ข้างบนตัวอีกคน คนโตกว่าชอบแกล้งอยู่เรื่อยเลยเลยทุบที่อกหนาของอีกคนแรงๆอย่างหมั่นไส้




“ความหมาย”
“ยังไงกัน” ความหมายอะไรล่ะผมไม่เข้าใจหรอกนะ
“ดอกของมันไง ขยับด้วยสิเด็กดื้อ”
“อื้อ มันจุกนะแล้วแค่นี้เองหรอไง อ้ะ” พี่นี่ก็กระแทกสวนขึ้นมาได้จุกชะมัดแถมกระชากเข้าไปหาอีก
Secret of Love






            นี่น่ะหรอความหมายของมันผมได้แต่กระพริบตาปริบๆมองพี่ เขายกมือมาลูบหัวผมพลางจูบที่ขมับชื่นเหงื่อนั่นแล้วพูดชิดหูผมว่าให้ขยับได้แล้วผมทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่ายจังหวะเนิบๆในตอนแรกเริ่มค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น อ่า พี่หุ่นดีชะมัดเผลอไปลูบที่กล้ามหน้าท้องของอีกคนจนได้ผมโน้มตัวลงไปซบไหล่ของคนเป็นพี่เพราะเริ่มเหนื่อยก่อนจะถูกจับพลิกให้ไปอยู่ข้างล่างเหมือนเดิมพร้อมกับแรงกระแทกที่ประดังเข้ามาอย่างไม่ยอมให้หยุดพักจนผมได้แต่จิกไหล่ของพี่อี้ฝานไว้อยู่อย่างนั่น ไม่ไหวแล้วนะความรู้สึกแบบนี้มันแทบจะสำลักความสุขตายให้รู้แล้วรู้รอด




            ปากก็เอาแต่ครางแทบไม่เป็นภาษาเรียกชื่อของอีกฝ่ายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแถมไม่รู้ว่าไปข่วนที่หลังพี่จนเลือดซิบได้ยังไงเหมือนสติค่อยๆเลือนหายไปทีละน้อยก่อนจะปลดปล่อยออกมาทั้งเขาและผม พี่อี้ฝานจูบที่เปลือกตาผมเบาๆแล้วเลื่อนลงมาบดเบียดริมฝีปากของผมที่เผยอออกอย่างดุนดันผมได้เอียงคอปรับองศาให้ตอบรับกับสัมผัสรุนแรงของพี่เขาพลางจูบตอบไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้มือข้างหนึ่งก็เอาแต่บดขยี้ยอดอก พี่ผละจูบแล้วเลื่อนลงจูบไปแทบจะทั่วร่างของผมเลยทีเดียว ผมยิ้มออกมากับการกระทำของอีกคนจากที่เคยน้อยใจตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร




            จริงๆมันก็อยู่เหนือความคาดหมายในแผนการซักหน่อยตรงที่พี่กับเขาไม่ได้คบกันจริงๆแต่ก็ดีแล้วล่ะแต่มันก็ออกจะเปลืองตัวไปนิดนะถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแถมกับพี่ลู่หานก็นอกแผนซะด้วยสิ โอเคตอนนี้มันก็คุ้มอยู่ละนะเพราะพี่จะทนไม่แตะต้องผมได้นานเท่าไหร่กัน





“เทา....”
“อะ อะไร”





            ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับรูปปั้นสลักพร้อมกับหุ่นนักกีฬาที่ดูจะตรงกับสัดส่วนของอนาโตมีอยู่ไม่ใช่น้อยดั่งประติมากรฝีมือเยี่ยมของโลกได้สร้างสรรค์เอาไว้ค่อยๆโถมตัวเข้ามาหาผมอีกครั้งส่วนแข็งขืนของพี่ที่ถูไถไปมากับต้นขาด้านในนั่นทำให้ผมพอจะรู้ว่าพี่กำลังจะเอ่ยอะไรออกมาแต่ก็ดูเหมือนอีกคนจะพยายามอดกลั้นอยู่ไม่น้อย ผมลูบแก้มพี่แล้วยิ้มให้พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ก็รู้ว่าพี่คงได้ยินอยู่แล้วล่ะ




“ช่วยกอดผมให้มากกว่านี้อีกสิ ..............พี่อี้ฝาน”





            เขาใช้มือปิดตาผมก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงลิ้นอุ่นๆของพี่โลมเลียริมฝีปากผมอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยสอดลิ้นแทรกเข้ามาช้าๆเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นผมอย่างเนิบนาบแล้วขบเม้มริมฝีปากล่างผมเบาๆ รู้สึกดีเป็นบ้า พี่เขาลุกขึ้นลงจากเตียงผมมองตามอย่างงงๆ ก่อนจะโดนอีกคนอุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วเดินไปยังห้องน้ำพี่ว่างผมให้ลงยืนกับพื้นโดยที่ตัวเองก็ยังประคองร่างผมอยู่ ผมเอื้อมมือไปดันฝาชักโครกให้ปิดลงมาแล้วดันพี่ลงไปนั่งอยู่บนนั้นผมนั่งคุกเข่าลงตรงหว่างขาแข็งแรงของอีกคน แกนกายที่กำลังชูชันของพี่มันดูบวมเป่งต้องการจะปลดปล่อยออกมาซะตอนนี้แต่ถ้าทำอย่างนั้นมันจะสนุกอะไรล่ะคงต้องแกล้งคืนบ้างซะแล้วล่ะ





            แค่ผมแตะลิ้นลงไปที่ส่วนปลายเบาๆก็เรียกเสียงครางทุ้มต่ำของพี่ออกมาได้แล้ว นึกอะไรสนุกๆออกแล้วสิผมลุกขึ้นก่อนจะก้มลงไปกระซิบบอกข้างหูอีกคนว่ารอก่อนนะแล้วเดินอย่างทุลักทุเลพอสมควรออกจากห้องน้ำได้ยินเสียงแว่วของพี่ว่ารีบมาไวๆนะ ผมหัวเราะในลำคอเบาใจร้อนจริงๆเลยน้าพี่เนี่ย ผมเดินเข้าไปใกล้ๆตู้เสื้อผ้าของพี่แล้วเปิดมันออกสายตาสอดส่องมองหาของที่ต้องการก่อนจะยิ้มกับตัวเองเมื่อเจอสิ่งที่ต้องการแล้ว แต่สายตาก็ไปปะกับเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของพี่อี้ฝานเข้าติดกระดุมแค่ไม่กี่เม็ดก่อนจะเดินกลับไปหาอีกคนที่รออยู่ในห้องน้ำ พี่เขาทำหน้างอใส่ผมพอเดินไปหาพลางดึงผมไปนั่งลงบนตักทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่





“ไปนานเลย แล้วใส่เสื้อทำไมยังไงก็ถอดอยู่ดี” ผมไม่ได้ตอบคำถามพี่
“อยู่เฉยๆน้า”





            ผมส่งเสียงอ้อนๆไปให้อีกคนก็ทำตามแต่โดยดี เข็มขัด พอผมชูสิ่งนี่ขึ้นมาพี่ถึงกับทำหน้าเหวอนิดๆผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะจับข้อมือของคนตัวโตมาประกบกันไว้ข้างหน้าแล้วใช้มันรัดข้อมือของพี่อี้ฝานเอาไว้ไม่แน่นจนเกินไปแต่ก็ไม่ได้หลวมนักจนคนเป็นพี่สลัดมันออกได้ง่ายๆ พี่ยู่ปากใส่ผมอย่างงอนๆแล้วถามออกมาว่าทำไมต้องมัดด้วยเนี่ยผมไม้ได้ตอบอะไรก่อนจะชูเนคไทให้อีกคนดูคราวนี้พี่ถึงกับเบิกตากว้างแล้วมองผมอย่างระแวง ผมพูดออกไปลอยๆว่าแค่เล่นสนุกน่า เอื้อมมือไปจับหน้าพี่ก่อนเอาเนคไทปิดตาแล้วมัดไว้เป็นปมที่มันหลุดออกได้ง่ายๆ




            ก่อนจะลงจากตักพี่แล้วไปนั่งคุกเข่าตรงที่เดิมเอื้อมมือไปจับส่วนอ่อนไหวของอีกคนแล้วบีบเค้นคลึงจนมันแข็งสู้มือขึ้นมาอีกครั้ง แลบลิ้นออกไปเลียราวกับเป็นไอติมรสโปรดก่อนจะอมเข้าไปในโพรงปากจนเกือบมิดด้ามแล้วใช้ฟันครูดเบาๆตอนรูดขึ้นตรงส่วนหัว ได้ยินเสียงพี่ซู้ดปากเบาๆตามมา ดูเหมือนพี่จะชอบมันนะผมเลยเร่งจังหวะขยับปากให้เร็วขึ้นจนอีกคนปล่อยออกมาเต็มปากของผม ผมคายมันออกมาก่อนจะเอาไปป้ายที่ช่องทางหลังของตัวเองแล้วก้าวขาไปนั่งคร่อมอีกคนก่อนจะกดสะโพกลงช้าๆ แกะเนคไทที่ปิดตาและเข็มขัดจากข้อมือของพี่ออกแต่เขาดันเอามันมามัดแขนผมต่อจากที่แกล้งเขากลับโดนแกล้งซะเองพี่ไม่ได้มัดมันแน่นอะไรแค่ผมกระชากมันก็หลุดแล้วล่ะแต่ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก




            ยกแขนที่โดนมัดไว้คล้องคอพี่ก่อนจะขยับตัวบดเบียดส่วนกลางลำตัวที่เชื่อมต่อกันอยู่ พี่ค่อยๆลากริมฝีปากตามซอกคอไปตรงไหล่แล้วกัดเบาๆ ต่อด้วยขบเม้มดูดแรงๆจนมันเป็นรอยคิสมาร์ค อืม มันรู้สึกเสียวกว่าเดิมอีกแหะ




“ให้ใครแตะต้องมาแล้วกี่คนกัน เทา...” จู่ๆพี่ก็พูดออกมา
“ทุกคน อื้อ ทุกคนล้วนแต่เป็นตัว..... แทนพี่”
“เป็นคำแก้ตัวที่ดีนิ กับคนอื่นตัวเองก็เป็นฝ่ายเชิญชวนเขาก่อนงั้นสิ” ผมปรือตามองพี่อย่างน้อยใจอะไรกัน
“ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ อ๊า”
“ร่างกายนี่ อย่าให้ใครสัมผัสอีกนะ”
“.......”
“เข้าใจไหม........... เด็กดี”
“อื้ม อ่า ... อา”




            พี่ชายสอดแขนเข้ามาใต้ข้อพับขาก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากฝาชักโครกแล้วอุ้มพยุงผมมาวางตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพอผมสัมผัสโดนกับกระเบื้องเย็นๆนั้นเข้าก็แทบจะกระเด้งตัวลงมาให้ได้แต่ติดที่พี่เขาแทรกตัวอยู่ตรงกลางตัวผมนี่แหละมันเย็นจนรู้สึกจะปวดไปตามช่วงล่างแล้วล่ะแต่พี่ก็ยังไม่ถอนตัวออกไปไหนแถมยังกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงส่วนผมทำได้แค่คอยรับการกระทำนั้นก็พอ พี่จับขาผมอ้าออกให้มากกว่าเดิมแล้วดันตัวเข้ามาลึกกว่าเดิมอีก อ่า บอกได้เลยว่ามันเจ็บแต่สุขสุดๆเลย มือพี่ที่ลูบไล้ไปตามขาอ่อนของผมพลางกดเล็บลงเบาๆมันช่วยให้ผมอารมณ์ประทุขึ้นได้อีกกว่าเดิมมือผมเลื่อนไปขยุ้มผมพี่อย่างหาที่ระบายความเสียวซ่านที่พี่เป็นคนทำขึ้น พลางยกขาข้างนึงมาเกี่ยวเอวเขาไว้




เข็มขัดที่มัดอยู่ก็ร่วงหล่นลงพื้นห้องน้ำไปตอนไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้อะไรมาฉุดก็คงทำให้เราสองคนไม่หยุดกิจกรรมนี้แน่นอน พี่ร่อนสะโพกเข้ามาถี่เร็วแล้วจับแกนกายผมรูดไปด้วยเล็บจิกลงแผ่นหลังของพี่ก่อนจะข่วนมันซ้ำอีกรอบเมื่อพี่กระแทกไปโดนจุดกระสัน เสียงครางกระเส่าที่ดังก้องในห้องน้ำหลุดออกจากปากผมเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อพี่ชายฉีดน้ำขาวขุ่นเข้ามาเต็มทางรักจนมันไหลย้อนออกมาไหลลงตามเรียวขาของผมเปื้อนพื้นห้องน้ำ แล้วขยับๆอีกทีสองทีโดยที่ไม่ลืมพาผมไปขึ้นสวรรค์ด้วย ช่องทางอุ่นซ่านขมิบตอดรัดถี่ๆกับความเป็นชายของอีกคนที่ยังคงคาไว้อยู่ พี่กดจูบปากผมเบาๆพลางลูบหลังไปมาราวกับจะปลอบเรียกขวัญ ผมแทบนั่งทรงตัวไม่อยู่ก่อนจะไหลไปซบกับไหล่ของพี่เสียงหอบหายใจของเราสองคนดังขึ้นแข่งกันอยู่พักใหญ่พี่ค่อยๆถอนตัวออกจากช่องทางแล้วอุ้มผมไปวางลงในอ่างอาบน้ำก่อนพี่จะตามมานั่งซ้อนหลังไว้




พี่เปิดน้ำให้ได้ระดับอยู่ครึ่งตัวเราสองคนแล้วค่อยปิดไป ผมทิ้งตัวเอนพิงหลังไปกับอกอีกคนอย่างหมดแรงก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่สอดนิ้วเขามาแล้วคว้านเอาของเหลวที่อยู่ข้างในออก ผมกัดปากตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ก็มันเจ็บมากๆเลยนี่หน่าแถมน้ำเย็นๆนี่อีกแสบชะมัด กลายเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับพี่อี้ฝานได้อาบน้ำด้วยกันอย่างนี้พอคิดขึ้นมาก็อดที่จะเขินจนหน้าแดงไม่ได้อีกแล้ว พี่ค่อยๆลูบสบู่เหลวไปตามร่างกายผมอย่างเบามือทีอย่างนี้ล่ะมาทะนุถนอมจัง พออาบน้ำกันเสร็จผมก็ต้องยืนอยู่เฉยๆกับคำสั่งของพี่ที่ว่าอย่าพึ่งขยับตัวไปไหนนะ เลยจะกลายเป็นรูปปั้นอยู่แล้วถึงจะอยากขยับแต่ก็ทำไม่ได้หรอกเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้




พี่บรรจงเช็ดตัวให้ผมเบาๆก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตตัวเดิมนั่นแหละมาใส่ให้ผมแล้วก็อุ้มไปไว้ที่เตียง ผมไม่ได้สนใจอะไรอีก พอหัวถึงหมอนตาก็ค่อยๆหลับลงแต่พอจะรู้ตัวอยู่เล็กน้อยว่าพี่กดริมฝีปากที่หน้าผากก่อนจะกระซิบประโยคอะไรซักอย่างที่ผมฟังได้ไม่ถนัดนักแล้วก็หลับไปในที่สุด







 








“พี่... เทานะ”




กลับไปเม้นต์ให้ด้วยน้า จุ๊บๆ  - Gardenia - XII - eagerness -


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น